Sunday, October 12, 2008

uptogu3

แทนและตูน เป็นเพื่อนสนิทที่ผ่านการเข้าประกวดร้องเพลงมาด้วยกัน ตอนนี้ทั้งสองได้ร่วมงานกันในฐานะนักแสดงละครเพลง
แทนและตูนสนิทกันมากจนนักข่าวเอาไปทำข่าวรักโปรโมท ทั้งสองปฏิเสททุกครั้งเมื่อมีใครมาถามถึงเรื่องนี้ ทั้งที่แทนก็แอบรู้สึกดีๆกับตูน เพราะตอนที่อยู่ในบ้านเก็บตัว ตูนเป็นคนที่เข้าใจแทนที่สุด แล้วตูนก็คอยสอนและให้กำลังใจแทนด้วย

หลังจากที่ทั้งสองรวมทั้งเพื่อนๆนักแสดงไปออกรายการจันทร์พันเดือน ตูนได้รับดอกไม้เซอร์ไพร์ทจากชนัตลูกชายเจ้าของกิจการสื่อและโฆษณา
“อุ้ย ขอบคุณค่ะ แล้วคุณ เอ่อ..”ตูนรีบขอบคุณสำหรับความกรุณา
“คือผมชื่อชนัตครับ ติดตามงานของคุณตูนมาตั้งแต่คุณเริ่มเข้าประกวดแล้ว”ชนัตแนะนำตัวเอง
“ถ้าคุณตูนไม่รังเกลียด คราวหน้าไปทานอาหารด้วยกันนะครับ”

จากนั้นทั้งสองก็เริ่มคบหากัน ชนัตไปรับไปส่งตูนเสมอ ทุกที่ หากงานไหนชนัตไม่ว่างไป ชนัตก็จะคอยโทรตามอยู่เรื่อยๆไป จนกลายเป็นคู่รักประจำปี สื่อทั้งหลายไม่ได้รู้เลนว่า จริงๆแล้วช่วงเวลาที่ทั้งคู่คบกัน ก็มีเรื่องต่างๆมากมาย
บางครั้งตอนที่ทานข้าวด้วยกัน คุณแม่ของชนัตก็โทรมาตามแล้วก็ดึงตัวชนัดไป ทุกครั้งที่ทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกัน ต้องมีเสียงโทรศัพย์จากคุณนายณัฐกุลแม่ของชนัตโมรมาตามเสมอๆ ชนัตลูกชายซึ่งไม่เคยขัดใจแม่ก็ต้องรีบทำตามที่คุณแม่สั่ง
แต่หลังจากนั้นตูนก็มีชื่อเสียงมากขึ้นๆ จนมีคำครหา ใส่ร้ายตูนว่า คบกับชนัตเพื่อดันตัวเองให้ดัง แต่ตูนก็ไม่ได้เก็บไปคิดให้หนักใจ

แล้วช่วงที่ทั้งสองมาพบกันที่คอนเสริต์นั้น แทนก็ทำตัวเป็นตัวป่วน ด้วยความหึงหวงเพื่อนสาว แทนพยามกีดกันไม่ให้ทั้งสองไม่ได้อยู่ร่วมกันตามลำพัง การกระทำของแทนทำให้ทุกคนรู้ว่าแทนแอบรักตูน ถึงแม้ตูนจะไม่รุ้ตัว แต่แทนก็พยายามเอาใจตูนเสมอ

จนกระทั่งชนัตต้องไปติดต่องานต่างประเทศ ทั้งสองจึงต้องห่างกันไม่ได้ติดต่อกันเลย
“ตูน เป็นอะไรรึเปล่า”แทนถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเพื่อนสาวซึมๆ
“แทน ทำไมชนัตเค้าไม่ติดต่อมาเลยล่ะ”ตูนบ่น
“ชนัตคงงานยุ่งมั้ง”
“ยังไงก็น่าจะติดต่อมาบ้างสิ นี่ตั้ง2อาทิตย์แล้ว ไม่มีเลยซักครั้ง มีใหม่ไปแล้วรึยังก็ไม่รู้”
“โถ่ตูน อย่าคิดมากสิ ชนัตเค้าไปทำงาน ไม่มีใครหรอก ตูนก็น่าจะรู้ดีที่สุดนี่ว่าชนัตเค้ารักตูนแค่ไหน”
แทนปลอบใจตูนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทั้งที่ตัวเองก็ไม่อยากจะพูดแบบนั้นเลยในใจแทนอยากจะตะโกนออกไปเลยว่า
‘งั้นก็เลิกกันไปเลยสิ แล้วก็มาคบกับเราแทน ตูนรู้มั้ยว่าเราน่ะ รักตูนนะ’


แทนปลอบตูนบ่อยทำให้ตูนหวั่นไหวแล้วครั้งนึงตูนก็พูดกับแทนว่า
“เราน่าจะรักแทนนะ ถ้าเรารักกับแทน เราคงไม่ต้องทรมานอย่างนี้หรอก”
ถึงแม้แทนจะดีใจแต่แทนก็รู้ดีว่าตูนไม่ได้จริงจังกับคำพูดนั้น แทนรู้ดีว่าตนเองนั้นเป็นได้เพียงเพื่อนที่ดีของตูน

หลังจากนั้นไม่นานชนัตก็กลับมาเมืองไทย ทางบ้านก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับใหญ่โต และส่งการ์ดมาเชิญตูนและเพื่อนๆไปที่งานด้วย
ในงานนั้นขณะที่ทุกคนรื่นเริงอยู่กับการรัปทานอาหารและเต้นรำ
ชนัตมาชวนตูนไปที่โต๊ะของครอบครัว
“คุณพ่อคุณแม่ครับ นี่ตูนคนที่ชนัตเล่าให้ฟังไง”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”ตูนกล่าวทักทาย จากนั้นก็ร่วมวงทานอาหารกับครอบครัวของชนัต
ไม่ทันไรก็มีผู้หญิงสวยๆคนนึงมาชวนชนัตไปเต้นรำ
“ชนัต ไปกับเค้าสิลูก”คุณแม่ของชนัตกล่าว ชนัตจึงหันมามองตูนเหมือนจะของอนุยาทแล้วลุกไปgriktw,jvpkd-yf8elyj’c,j
“เค้าดูสนิทกันดีจริงๆเลย ใช่มั้ยจ๊ะหนูตูน”คุณแม่ของชนัตชี้ชวนให้ตูนหันไปมอง
ตูนมองไปแล้วก็เห็นทั้งสองคนสนิทสนมกันดีเกินเพื่อนแล้วคุณนายณิชกุล แม่ของชนัตก็ยังกล่าวต่อไปอีกว่า
“นั่นน่ะนะ คือหนูพอล รู้จักกันมานานแล้ว ตอนเด็กๆก็เห็นเล่นด้วยกันเฉยๆ ไม่คิดเลยว่าเดี๋ยวสองคนนี้จะแต่งงานกัน”
“แต่งงาน!!”
“ก็ใช่น่ะสิเนี่ยน้าคิดไว้ว่าจะให้แต่งกันปีนี้เลย รึหนูตูนว่าไง”คุณนายณิชกุลหันมาถามพลางทำหน้าเยอะเย้ย “รีบแต่กันปีนี้ ปีหน้าจะได้มีหลานให้น้าอุ้ม ดีจริงๆเลยนะ”
ตูนได้ยินดั้งนั้นก็กลั้นน้ำตาแทบไม่ไหวจึงรีบลากลับแล้วออกมาร้องไห้นอกงาน
หลังจากนั้นภายในงาน ครอบครัวของชนัดก็เปิดตัวคู่หมั้นแสนสวยของชนัต และแถลงข่าวว่าจะให้แต่กันภายในปีนี้
วันต่อมาสื่อทั้งหลายรีบประโคมข่าวนี้ บ้างก็พาดหัวข่าวว่า รักสามเศร้า ดาราดังตกกระป๋อง ทันทีที่ตูนเห็นข่าวนี้จากหนังสือพิมพ์ น้ำตาที่เพิ่งแห้งก็พรั่งพรูออกมาอีกระรอก ตูนเศร้าเสียใจจนไม่อยากออกไปพบสื่อ ไม่อยากตอบคำถาม จึงปรึกษากับแทน แทนแนะนำให้หลบไปอยุ่บ้านญาติของตนก่อน ให้สบายใจแล้วจึงมาทำงานต่อ แต่เมื่อบอกผู้ใหญ่ว่าจะขอลางานซักเดือน ท่านก็ไม่อนุญาต เกรงว่าจะถูกสื่อโจมตีหนักกว่าเดิม จึงให้ตูนและแทนไปถ่ายทำละครเรื่องใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทำงานด้วย พักผ่อนด้วย
ช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่แทนและตูนได้กลับมาทำงานร่วมกัน หลายครั้งที่แทนเห็นน้ำตาของตูน และช่วยปลอบใจมาตลอดทำให้แทนรู้ใจตัวเองอย่างชัดเจนว่า ตนนั้น รักตูนมาก แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้
วันหนึ่งหลังที่กองถ่ายยกให้เป็นวันหยุด แทนเห็นตูนหลบมาร้องไห้จึงเข้าไปปลอบ
“ตูน เป็นไรรึเปล่า”
“เปล่าหรอก ตูนดีขึ้นแล้ว แค่รู้สึกแปลกๆ”
“แปลก แปลกแบบไหน”
“ไม่รู้สิแทน ตูนก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้นไป ” แทนคว้าแขนตูนเพื่อจะเดินไปที่อื่น
“ไปไหนแทน”
“ตามมาเถอะน่า ”
ขณะที่แทนพาตูนออกมา ชอปปิ้งเพื่อคลายเครียตที่โรบินสัน ชนัตก็เข้ามาง้อตูน
“ตูน เราขอโทษ ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ”ชนัตพูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“ชนัต คุณมาที่นี่ทำไม เรื่องของเรามันจบแล้ว ตูนทำใจได้แล้ว พอซะทีเถอะนะ” น้ำเสียงของตูนสั่นเครือเพราะความสับสนที่เกิดขึ้นตอนนั้น
“ตูนเราปฏิเสทคนนั้นไปแล้ว เรื่องคู่หมั้นอะไรนั่นน่ะ ผู้ใหญ่เค้าเป็นคนจัดการกันเอง เราไม่เกี่ยวนะตูน”ชนัตยืนยัน
ด้วยความเป็นห่วง และไม่อยากเสียตูนไปให้ชนัต แทนจึงพูดขึ้นว่า
“พอทีเถอะชนัต เราไม่ไว้ใจนายแล้วนะ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเราไม่เห็นนายจะติดต่อมาหาตูนเลย นายมัวไปทำอะไรอยู่กันแน่ ถ้านายจริงจังกับตูน นายก็น่าจะโทรมาบ้างสิ จริงมั้ยตูน” แทนหันไปถามตูนเพื่อขอแรงสนับสนุน แต่ตูนกลับพูดขึ้นโดยไม่หันมามองหน้าแทนว่า
“แทน นายไปที่อื่นก่อนได้มั้ย คือว่าเรา..”
“ไม่ต้องพูดแล้วตูน เราเข้าใจแล้ว ” แล้วแทนก็เดินจากไป
ตูนและ ชนัต เข้าไปดื่มกาแฟที่แบล็คแคนย่อน และปรับความเข้าใจกันอย่างดี
“ชนัตรู้ได้ไงว่าตูนอยู่นี่”
“เราตามหาตูนจนทั่วนั่นเหละ แต่มีแฟนคลับตูนโพสในเน็ตว่า ตูนมาถ่ายละครที่เชียงใหม่ ชนัตเลยตามมา”
“แล้วเรื่องคู่หมั้นล่ะ เป็นยังไง แล้วทำไม ชนัตไม่โทรมาหาตูนเลย”
“ก็เรื่องนี้เหละ ผมปฏิเสธเค้าไง คุณแม่ก็เลยโมโหใหญ่ ยึดโทรศัพท์ ยึดรถ ยึดบัตรเครดิต แล้วก็ไม่ให้เราออกไปไหนเลย นี่เราก็ต้องใช้จังหวะที่คุณแม่ไปออกงานหนีออกมาตามหาตูน ไปหลายที่ก็ไม่เจอ จนไม่รู้จะไปไหน พอไปนอนที่บ้านเพื่อนก็เลยได้รู้ว่าตูนมาอยู่ที่นี่น่ะเหละ”
“แล้วตอนนี้ชนัตพักที่ไหนล่ะ ไม่มีเงินไม่ใช่เหรอ”
“ก็เองเงินที่พอมีอยู่ไม่กี่พันในกระปุกออกมาใช้ ตอนนี้ก็พักที่โรงแรมเก่าๆ เหมือนโรงแรมผีสิงเลย น่ากลัวจริงๆ”
“สมน้ำหน้า ก็อยากมาทำไมเล่า คนเค้าไม่ได้เชิญซะหน่อย”
“โถ่ ตูน ทำไมพูดอย่างนั้นเล่า ที่ผมมาเนี่ยก็เพราะอยากเจอตูนนะ” ชนัตพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่สุด ทำให้ตูนถึงกับหน้าแดง

ทางด้านแทนซึ่งเดินจากมาด้วยความขับข้องใจ จนไม่ได้มองทางทำให้ชนกับ รินทร์ ซึ่งยืนดูตัวอย่างหนังและกินไอศกรีมอย่างสบายอารมณ์ เข้าอย่างจัง ทำให้ไอศกรีมมอคค่ามูลาเต้เพิ่มวิปครีมหกเละเทะ ทำให้รินทร์โกรธมาก
“โถ่เอ๋ย หกหมดเลย นายนี่ เดินยังไงฮะ โถ่ ไอศกรีมนี่ชั้นเพิ่งซื้อมา ยังไม่ทันจะกินไปถึงไหนเลย ”รินทร์พูดด้วยท่าทางเสียดาย
“ขอโทษครับ ผมเดินไม่ดูทางเอง” เสียงนั้นเหละที่ทำให้รินทร์หันไปมองหน้าผู้ชายคนนั้นตรงๆ
“อุ้ย น้องแทน น้องแทนจริงๆเหรอเนี่ย ไม่เป็นไร พี่เองก็ไม่ได้มองเหมือนกันนั่นเหละ ช่างมันเถอะ” น้ำเสียงเปลี่ยนทันทีเลย เมื่อรินทร์ได้รู้ว่าชายคนนี้คือน้องแทน นักร้องในดวงใจ
“ช่างมันไม่ได้หรอกครับ ดูสิเสื้อเลอะหมดเลย เดี๋ยวผมจัดการให้นะครับ”
รินทร์ก้มมองดูเสื้อตนเองจนเห็นว่าชุดนักศึกษาที่ตนใส่นั้นเลอะเทอะไปหมดแล้ว
“ว้าย เลอะขนาดนี้เลยเหรอจะทำยังไงล่ะทีนี่”
รินทร์พูดยังไม่ทันขาดคำ แทนก็ถอดเสื้อคลุมให้รินทร์แล้วลากรินทร์เข้าไปในร้านAIIZ แต่รินทร์รู้ทันจึงรั้งไว้ก่อน
“แทนจะซื้อให้พี่เปลี่ยนเลยเหรอ พี่ไม่เอาหรอกนะร้านแพงๆ ใส่แล้วผื่นขึ้น มากนี่เลยดีกว่า”
รินทร์ลากแทนลงมาที่ชั้นใต้ดินของโรบินสัน แล้วเข้าไปในร้านเสื้อยืดราคาถูก ซื้อเสื้อกับกระโปรงราคารวมกัน298บาท แต่รินทร์ก็ไม่ได้ให้แทนจ่ายให้หรอก ทั้งสองยื้อแย่ง แข่งกันจ่ายอยู่พักหนึ่ง
“ทำไมไม่ให้แทนจ่ายล่ะครับ”แทนถาม
“ก็พี่ไม่อยากให้จ่ายนี่จบมั้ย”รินทร์ตอบไปแบบกวนๆ
“ถ้าไม่ยอมให้จ่ายแล้วจะพาแทนลงมาด้วยทำไมละครับ”แทนถามอย่างสงสัย
“ก็. พี่ ก็พี่... พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแทนตามมาทำไมล่ะ”
“ก็จะมาจ่ายค่าเสื้อไง แล้วก็ไม่ยอมให้จ่ายด้วย”
“พอๆ พอ เลิกเถียงซะที พี่ไม่ยอมให้จ่าย จบแล้ว งั้นแทนพาไปเลี้ยงไอศกรีมคืนก็ได้ ป่ะ”

เมื่อไม่ได้จ่ายค่าเสื้อให้รินทร์แล้วแทนจึงพารินทร์ไปเลี้ยงไอศกรีมแทน
“น้องแทน ทำไมต้องใส่แว่นดำด้วยล่ะ”รินทร์ถาม
“ก็ไม่รู้สิ ไม่อยากให้ใครจำได้มั้ง”แทนตอบ
“คิดว่าไม่มีใครจำได้รึไงเล่า... ว่าแต่น้องแทนมาทำอะไรที่เชียงใหม่นี่ล่ะ”
“มาถ่ายละครครับ แล้วนี่มันรายการ20คำถามรึไงครับ ถ้าคุณจะถามแทน แทนก็ถามคุณบ้างแล้วกัน คุณชื่ออะไรครับ”
“เอ่อ นั่นสิเนอะ โทษทีพี่ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย พี่ชื่อรินทร์ ติดตามงานน้องแทนมาบ้างพอสมควรแล้วจ๊ะ น้องแทนน่ารักดี”
“อ่อ ขอบคุณครับ แล้วรินทร์แก่ว่าแทนจริงๆเหรอครับ หน้าตาเหมือนรุ่นเดียวกัน”
“พี่เกิด31น่ะ”
“โอ้ย แก่กว่ากันไม่กี่ปีเอง ไม่ต้องเรียกพี่ได้มั้ย มันดูห่างๆน่ะ”
“ก็ได้ “…
“ ... ว้าวววว ไอศกรีมมาแล้ว น่ากินจังเลย ” พูดจบ รินทร์ก็ทานไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อย จนลืมสนใจชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า
แทนนั่งจ้องรินทร์อย่างเอ็นดู เพราะทุกคำที่รินทร์ค่อยๆละเลียดกิน ดูรินทร์มีความสุขมาก เหมือนกับค่อยๆกัดกินความสุขเข้าไปมากขึ้น มากขึ้น
กว่ารินทร์จะรู้สึกตัวว่าถูกมองก็กินไปครึ่งถ้วยแล้ว
“มองอะไรคะแทน ไม่กินรึไง”
“มองรินทร์กินแล้วอร่อยดี”
“มองรินทร์กินอย่างเดียวตัวเองไม่ได้กิน จะอร่อยได้ไง”
“ก็ดูท่าทางรินทร์กินแล้วมีความสุขดี”
“ก็แน่นอนล่ะ มันอร่อยนี่ ผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กันนะ ไม่เคยได้ยินรึไง”
“ไม่กลัวอ้วนเหรอ”
“ถามแบบนี้มันน่าโดนแตะนะเนี่ย กวนแล้วนะเนี่ย”
“ก็แล้วกลัวมั้ยล่ะ”
“ไม่กลัว ก็ถ้ากลัวจะอ้วนขนาดนี้เหรอ”
“โอ้ยย แบบนี้นะอ้วน ใครบอก แบบนี้เค้าเรียกอวบๆน่ารักดีออก”
“แหม ปากดี พูดอย่างนี้สิค่อยเข้าหูหน่อย”
“เร็วๆสิ เดี๋ยวก็ละลายหมดหรอก”
เมื่อกินหมดแทนก็ลุกไปจ่ายเงิน รินทร์ก็เดินตามออกมา ทั้งสองเดินเที่ยวด้วยกันจนมีคนรู้ว่าคนที่เดินกันรินทร์คือแทน จึงรี่เข้ามารุมของลายเซ็น และถ่ายรูปกับแทน รินทร์จึงปลีกตัวไปในร้านหนังสือ
รินทร์คิดว่าแทนคงจะออกไปพร้อมแฟนคลับแล้ว
แต่ในขณะที่รินทร์ยืนอ่านหนังสืออยู่แทนก็เดินเข้ามาข้างหลังแล้วถามว่า
“ชอบอ่านหนังสือด้วยเหรอครับ”
รินทร์หันมามองอย่างแปลกใจ“อ้าว ได้ยินว่าแฟนคลับชวนไปดูหนัง นึกว่าไปกับแฟนคลับแล้วซะอีก”
“ไม่ล่ะ บอกเค้าว่ามาพักผ่อนเค้าก็เข้าใจ ...เราไปเที่ยวกันมั้ย”
รินทร์วางหนังสือแล้วรีบตามแทนออกจากร้านไป
แทนซ้อนมอเตอร์ไซค์รินทร์ไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งสองใช้เวลาด้วยกันอย่างสนุกสนาน จนใกล้ค่ำแทนก็ต้องรีบกลับไปที่กอง
“โถ่เวลาผ่านไปขนาดนี้แล้วเหรอ แทนยังเที่ยวไม่หมดเลย” แทนเอ่ยขึ้น พลางดูนาฬิกาของตน
“ต้องกลับแล้วเหรอ ยังไม่มืดเลย”
“กองถ่ายแทนอยู่บนดอยน่ะ ถ้าไม่รีบกลับเดี๋ยวจะมืด ไม่มีรถขึ้นไป”
“งั้นอยู่ต่ออีกนิดนะ ไปที่เมืองหิมะจำลองก่อนรินทร์ยังไม่เคยไปเลย ” “ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวรินทร์ไปส่ง”
“จะบ้าเหรอ ผู้หญิงขี่รถลงมาคนเดียว น่ากลัวจะตาย”
“แหมรินทร์ขี่ขึ้นดอยไม่รู้จะกี่รอบแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่านี่ก็เพิ่งสี่โมงเอง ขึ้นไปตอน5โมง ลงมาถึงไม่ทันมืดหรอก เชื่อดิ”

พอรินทร์ไปส่งแทนบนดอยแล้ว รินก็รีบกลับลงมาให้ทันก่อนมืด
แล้วแทนก็ถูกผู้จัดการซักถามอะไรเป็นการใหญ่
“น้องแทน ไปไหนมา ทำไมไม่บอกพี่ รู้มั้ยว่าพี่ๆเป็นห่วงแค่ไหน”
แทนได้แต่ทำหน้าจ๋อยแล้วตอบกลับไปว่า
“ขอโทษครับพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ พอดี ตูนเค้าเครียดๆน่ะครับ”
“เออ ว่าแต่ตูนไปไหนล่ะ พี่ยังไม่เห็นกลับมาเลย”
“จริงเหรอพี่ ”
พูดยังไม่ทันขาดคำแทนก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ลานจอดรถ ทิ้งให้คนทั้งกองถ่ายนั่งงง
แทนเป็นคนใจร้อนจึงวิ่งไปด้วยความเร็วเพราะเป็นห่วงตูน แต่พอไปถึงลานจอดรถ ก็เจอตูนพอดี
“อ้าวแทนจะรีบไปไหนน่ะ”ตูนถาม
“ก็ไปตามเธอน่ะสิถามได้ ไปไหนกันมาทำไมกลับมาช้าจัง”แทนตอบพร้อมกับอาการหอบ
“พอดีรถเสียน่ะ อยู่ๆก็ดับ ทางก็เปลี่ยว มีแซบมาป้วนเปี้ยนด้วย ดีนะมีผู้หญิงใจดีผ่านมาช่วยไว้”
“เหรอ เอ่อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วนี่ชนัตจะมานอนที่นี่ด้วยเหรอ ”
“อืม ตูนฝากให้ชนัตนอนที่ห้องแทนด้วยได้มั้ย โรงแรมที่ชนัตไปอยู่น่ะ น่ากลัวมากเลย”
“เออ ไงก็ได้” แทนตอบด้วยความรู้สึเคืองนิดๆ
แทนมัวแต่แอบเคืองตูนและชนัตจึงลืมนึกถึงรินทร์เพื่อนที่เที่ยวด้วยกันวันนี้ซะสนิท

ในห้องพักของแทน
เมื่อแทนเห็นรอบช้ำบนหน้าของชนัต จึงถามขึ้นว่า
“นี่ หน้าไปโดนอะไรมา”
“เนี่ยเหรอ ก็พวกแซบเชียงใหม่น่ะสิ มีกันตั้ง4คนเป็นผู้หญิงคนนึง มันจอดรถแซวตูน เราก็เลย.. ”
“ไปโชว์ฟรอม์ แล้วก็โดนมันต่อยซะ... แล้วรอดมาได้ไง”
“ก็มีรถผ่านมาเค้าจอดช่วยจัดการพวกนั้นซะรีบหนีไปเลย แล้วก็ยังซ่อมรถให้ด้วย เก่งมากนะ ทั้งที่เป็นผู้หญิง”
“เหรอ น่ารักมั้ย”
“ก็โอเคเหละ แต่ก็ไม่เท่าไร ”ชนัตทำท่าจะพูดต่อแต่แทนขัดขึ้นมาว่า
“พอเหอะ เราเหนื่อยแล้ว นอนซะที”...

ช่วงเวลาที่แทนเห็นตูนกับชนัต สวีตกันก็ทรมานใจมากมากทุกครั้ง ได้แต่ขุ่นเคืองตนเองที่ไม่สามารถบอกความในใจได้ และพยายามทำใจให้เลิกรักตูน
สามวันถัดมาตูนและแทนก็ต้องย้ายสถานที่ถ่ายทำไปในเมือง จึงได้วานคนขับรถไปส่งชนัตที่สนามบินด้วย
จากนั้นวันสุดท้ายที่จะเป็นวันปิดกล้องด้วย ทั้งสองได้เข้าไปถ่ายทำที่สวนสัตว์ ทำให้แทนนึกถึงรินทร์ หญิงสาวคาคมคนนั้น แทนจึงโทรไปหา
“รินทร์เหรอ นี่แทนเองนะครับ รินทร์ทำอะไรอยู่”
“เอ่อ แทน รินทร์ทำงานอยู่ในมอน่ะ มีอะไรรึเปล่า”
“แทนปิดกล้องแล้ว ไปหาได้มั้ย”
“แทนรู้ทางมาหรอก เดี๋ยวรินทร์ไปหาก็ได้ ไม่นานก็เสร็จแล้ว”
“แล้วเจอกันนะ”

แทนนั่งรอรินทร์ที่ร้านกาแฟวาวี20นาทีรินทร์ก็มาถึง
“รอนานมั้ย โทษทีนะเรารอพรีเซนต์งานน่ะ เสร็จแล้วก็รีบมาเลย”รินทร์ขอโทษขอโพย พร้อมทั้งให้เหตุผล
“ไม่เป็นไร แต่แถวนี้ดีเนอะ ไม่ค่อยมีคนมาใส่ใจเรื่องของคนอื่น”
“หมายความว่าไงเนี่ย??”
“ก็แทนมานั่งอยุ่น่าตั้งนานแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเป็นแทนเลยไม่มีใครมายุ่ง อยุ่นี่แล้วสบายใจดี”
“งั้นก็อยู่ไปตลอดเลยสิ” รินทร์พูดอย่างอารมณ์ดี
วันนี้แทนเลี้ยงกาแฟรินทร์อีก ขณะที่จิบกาแฟรินทร์ก็ถามขึ้นมาว่า
“แทนจะกลับกรุงเทพเมื่อไรเหรอ”
“พรุ่งนี้บ่ายๆ วันนี้เค้าให้พักก่อน”
“แล้วไม่มีงานเลี้ยงปิดกล้องเหรอ”
“เออใช่ ลืมไปเลย คืนนี้ที่วอม์อัฟ รินทร์จะไปด้วยกันมั้ย”แทนเชิญชวน
“ไม่เอาล่ะ รินทร์ไม่ชอบเสียงดังๆ”รินทร์ปฎิเสท
“อะไรกัน นึกว่ารินทร์ชอบเที่ยวซะอีก”
“ไม่ล่ะ รินทร์ไม่ชอบหรอกเที่ยวแบบนั้น”
“นี่ไง เค้าบอกแล้วว่าอย่ามองคนแต่ภายนอก”
“ทำไม หมายความว่าไงคะแทน”
“ก็หน้าตารินทร์น่าจะเป็นคนชอบเที่ยวน่ะลิ”
“เหอๆๆ”รินทร์หัวเราะแห้งๆ
“รินทร์ก็เคยไปนะ แต่ไม่ชอบน่ะ เสียงดังเกินไป เหม็นด้วย ผู้หญิงบางคนนะใส่น้ำหอมมากเกิน พอเดินผ่านนะรินทร์จะเป็นลมเลย”
“โห่ๆๆ ขนาดนั้นเชียว”
“ก็ใช่น่ะสิ นี่นะ รินทร์มาอยู่ที่นี่3ปีแระไปเที่ยวผับไม่ถึง3ครั้งเลย”
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน ตูนก็โทรมาหาแทน แทนจึงลุกหลบไปคุยที่อื่นแล้วเดินกลับมาบอกรินทร์ว่า
“รินทร์ เราต้องไปแล้วนะ เราจ่ายให้แล้วนะไม่ต้องห่วง”
“รีบไปไหนล่ะ”รินทร์ถาม
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ไว้เดี๋ยวเจอกันคราวหลังนะ”
“ไม่ต้องหรอกแทน”รินทร์พูด แทนจึงหยุดแล้วหันมามองรินทร์
“หมายความว่าไง”
“ก็.. รินทร์ว่าแทนอยุ่ในโลกของแทนไปเถอะ รินทร์ไม่อยากลบกวนเวลาของแทนหรอก รินทร์รู้ตัวว่ารินทร์เป็นใคร ถึงแม้รินทร์จะมีความสุขมากที่ได้รู้จักแทนก็เถอะ ”รินทร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น รินทร์ไม่อยากพูดอย่างนั้นหรอกเพราะรินทร์รักแทนตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักกัน แต่ก็ต้องพูดไปเพราะไม่อยากทำให้ตัวเองทรมานหว่าเดิม”ทุกนาทีที่อยู่กับแทน รินทร์จะไม่ลืมเลย แต่ก็รินทร์ก็จะยอมให้มันเป็นเพียงความทรงจำ เพราะรินทร์ไม่อยากเสียใจ”
แทนได้ยินที่รินทร์พูดก็ทำอะไรไม่ถูก แทนเห็นท่าทางของรินทร์เปลี่ยนไปจากที่ยียวนกวนประสาท นาทีนี้กลับดูคล้ายท่าทางของตูน จนแทนลืมตัวเดินเข้าไปจูบรินทร์ ทั้งสองยืนค้างในท่าจูบนานมากเพราะต่างก็ช๊อกในการกระทำนั้นทั้งคู่ พอตั้งสติได้ แทนก็รีบออกมากจากร้านแล้วไปพบตูน

ตูนนั่งอยุ่ที่ร้านอาหารไฮโซแห่งหนึ่ง เหม่อมองออกไปนอกร้าน ทำหน้าตาเศร้าๆ
แทนจึงรีบถามด้วยความเป็นห่วง
“ตูนเป็นอะไรรึเปล่า มีอะไรให้เราช่วยก็บอกได้เสมอนะ”
ตูนหันมายิ้มให้แทนแล้วบอกว่า
“ตูนไม่เป็นไรหรอก ที่เรียกมาเนี่ย อยากจะเลี้ยงข้าวแทน ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีทีสุดของเรา อยากกินอะไร สั่งเลยนะ” แทนได้ยินตูนพูดแบบนั้นยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกว่าแทนไม่สามรถอัฟเกรดฐานะตนเองได้มากกว่าคำว่าเพื่อน จึงได้แต่ยิ้ม แล้วก็ใช้เวลาที่มีอยุ่กับตูนให้คุ้มค่า

ในงานปิดกล้องแทนถูกสั่งให้ร้องเพลงคู่กับตู่ แทนจึงขอเลือกเพลงที่มีความหมายดีๆเป็นการบอกรักทางอ้อม แต่ตูนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

ในคืนนั้นแทนนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ตูนไม่สนใจแทนและเห็นแทนเป็นแค่เพื่อน แต่ทุกครั้งที่แทนหลับตา แทนก็จะนึกถึงสิ่งที่ตนเองทำกับรินทร์ แทนโทรไปหารินทร์แต่รินทร์ก้ไม่รับสาย แทนโทรไปบ่อยจนรินทร์ปิดเครื่องหนี แทนข่มตานอนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าทางด้านรินทร์ก็นอนไม่หลับเช่นกัน เพราะรินทร์ก็ตีความการกระทำของแทนอยู่ ตกลงแทนคิอย่างไรกับรินทร์กันแน่



ติดตามตอนต่อไป

No comments: